จากข่าวฝุ่น PM 2.5 ในครั้งก่อน ที่พุ่งเกินมาตรฐานในทุกพื้นที่กว่า 70 เขต วันนี้ update สถานการณ์ฝุ่นในเมืองกรุง
ขอให้สบายใจกันได้ เพราะแนวโน้มมีฝุ่นเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ในทุกพื้นที่ คือ มาตรฐานเดิมนั่นแหละ เรียกว่า สูงในทุกเขต
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครสรุปผลการตรวจวัด PM2.5 ระหว่างเวลา 05.00-07.00 น. ว่าตรวจวัดได้ 11-37 มคก./ลบ.ม. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 19.3 มคก./ลบ.ม.ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกสถานีที่มีการตรวจวัด
เวลา 07.00 น. ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ได้ 11-37 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อวานในช่วงเวลาเดียวกัน และพบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกสถานีที่มีการตรวจวัด (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.)
ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง (คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่น PM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยา)
ในช่วง วันที่ 7-13 ก.พ.2566 คาดว่าอัตราการระบายอากาศดี อากาศค่อนข้างเปิด ประกอบกับมีฝนบางพื้นที่ เนื่องจากช่วงวันที่ 8-13 ก.พ.2566 มีเมฆบางส่วน กับมีฝน/ฝนฟ้าคะนองเล็กน้อย เกิดขึ้นได้บางพื้นที่ มีลมจากทิศใต้ และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทยพัดเข้ามาปกคลุมแทนที่ลมหนาว ส่วนมวลอากาศเย็นที่แผ่ปกคลุมเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบน มีอุณหภูมิสูงขึ้น กลางวันอากาศร้อน ส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง PM2.5 มีแนวโน้มทรงตัว และวันนี้พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
และช่วง วันที่ 8-14 ก.พ.2566 พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลมีแนวโน้มคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศที่ดีเนื่องจากสภาพอากาศที่เปิดมากขึ้น และมีลมใต้ที่มีกำลังค่อนข้างแรงช่วยพัดพาฝุ่นละออง ออกจากพื้นที่
จากการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (hotspot) ผ่านดาวเทียม จากหน่วยงาน NASA พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 จุด ในวันที่ 8 ก.พ.2566 เวลา 01.45 น. เขตหนองจอก
ด้าน ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ เวลา 07.00 น. วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 สรุปว่า ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ พบเกินค่ามาตรฐานในกรุงเทพฯ จ.เชียงใหม่ จ.พิษณุโลก จ.นครพนม จ.มุกดาหาร จ.ขอนแก่น จ.อุบลราชธานี และ จ. ศรีสะเกษ
- ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 2 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 14-146 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 5 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 31-92 มคก./ลบ.ม.
- ภาคกลางและตะวันตก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 12-44 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 8-34 มคก./ลบ.ม.
- ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 10-23 มคก./ลบ.ม.
- กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 10-55 มคก./ลบ.ม.
ประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น
ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์
สำหรับประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีแดง) ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์
ขณะที่ กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 9-15 กุมภาพันธ์ 2566 ดังนี้
ระหว่าง วันที่ 9-15 กุมภาพันธ์ 2566 พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลมีแนวโน้มคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศที่ดีเนื่องจากสภาพอากาศที่เปิดมากขึ้น และมีลมใต้ที่มีกำลังค่อนข้างแรงช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่
พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มที่ควรเฝ้าระวังบริเวณภาคเหนือตอนบน ในช่วงวันที่ 10-11 กุมพาพันธ์ 2566
ที่มา : มติชนออนไลน์ / swenth.com