บัวบกโขด ปลูกในบ้านได้ ปลูกนอกบ้านก็ดี ต้นไม้สไตน์ มินิมอล เล็กแต่สวย เลี้ยงง่าย ตายยาก
ขึ้นชื่อว่า ไม้โขด ไม่มีใครไม่รู้จัก บัวบกโขด เพราะต้นไม้ชนิดนี้ แม้จะมีถิ่นกำเนิดอยู่ในป่า แต่ใช่ว่าจะนำมาเลี้ยงในบ้านไม่ได้ โดยพืชชนิดนี้ มีต้นกำเนิดอยู่ทุกที่ของพื้นป่าเขตร้อน โดยเฉพาะในแถบเอเซียของเราเอง โดยในประเทศไทยเองก็มี บัวโขดสายพันธุ์ไทย ที่ชื่อว่า Stephania Erecta Craib อยู่ในวงศ์ Menispermaceae
ซึ่งหลังจากได้ตรวจสอบที่มาที่ไปแล้ว ก็พบว่า แต่เดิมนั้น ต้นไม้ชนิดนี้มักพบเจอในป่า โดยเฉพาะป่าเขตร้อน และถือเป็นไม้ป่าชนิดหนึ่ง ไม่ทราบใครเป็นคนนำเอามาเพาะเลี้ยงคนแรก แต่เดาได้ว่า ลักษณะของพันธุ์ไม้ชนิดนี้ อาจไปสะดุดตาของบรรดา คนรักต้นไม้ เข้า จึงได้นำมันมา เพาะเลี้ยง ในเขตเมือง เมื่อออกสู่สายตาประชาชน จึงทำให้มีการ เสาะแสวงหา เมล็ดพันธุ์ มาเพาะ และ ขยายพันธุ์ สำหรับนักนิยม พันธุ์ไม้แปลกตา จวบจนปัจจุบัน
ลักษณะเด่นของ บัวบกโขด
ไม้ป่าชนิดนี้ มีเอกลักษณ์ที่เด่นชัดคือ รูปทรง แปลกตา ไม่เหมือนกับพันธุ์ไม้ชนิดอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะมี หัว ขนาดใหญ่ บ้างก็คิดว่าเป็นลำต้น บ้างก็คิดว่าเป็นผล แต่จริงๆ แล้ว มันคือส่วนของ ราก ที่ทำหน้าที่ สะสมอาหาร เหมือนไม้โขดทั่วไป แต่ที่น่าจับตามอง และกลายเป็นสิ่งที่ต้องตา ต้องใจสำหรับผู้พบเห็น นั่นก็คือ ใบของมันจะเล็ก และอาจมีกิ่งที่ทอดยาวเข้าหาแสงแดด บางครั้งมีกิ่ง มีใบมาก บางครั้งก็ไม่มีใบ มีแต่กิ่ง หรือมีแต่หัวหรือราก ที่มองดูแล้วคล้ายต้นไม้พิการ
แต่โชคดี ที่ไม้โขดส่วนใหญ่ ชอบอากาศร้อน ทนแดด ทนฝน นั่นจึงทำให้มัน ตายยาก และ โตช้า แต่หากสภาพแวดล้อมเป็นใจ จะยิ่งทำให้มีอัตราการเติบโตที่ น่าเหลือเชื่อ
เพราะเหตุนี้เอง จึงเป็นความ ท้าทาย ของบรรดานักสะสมไม้หายาก ไม้แปลกตา ต้องมองหา บัวโขด ไว้ครอบครอง
ซึ่งลักษณะโดยทั่วไปของ ไม้โขดนั้น จะเจริญเติบโต และงอกอยู่บนพื้นดินแห้ง ๆ โดยหัวจะฝังไว้ใต้ดิน ที่โผล่พ้นดินมาก็มีเพียง ก้านใบ ใบ และดอก โดยใบ จะเป็นลักษณะทรงกลม บางใบมีขนเล็ก ๆ ปกคลุมไปทั่วใบ ต้องการแสงแดดรำไร ก็อยู่ได้ เพราะโดยธรรมชาติ จะขึ้นในป่า โดนไม้ใหญ่บดบังแสง จึงทำให้ได้รับแสงน้อยก็อยู่ได้ แต่หากได้แสงจัด ก็โตวันโตคืน
ไม้โขดนั้น มักไม่ชอบน้ำ เพราะสายพันธุ์มีการสะสมอาหารอยู่ในส่วนของโขด หากมีแร่ธาตุและสารอาหารมาก โขดจะเล็ก และยาว หรือแตกกิ่ง ก้าน ใบ ให้รก ไม่สวยงาม สำหรับคนชอบไม้แปลกแล้ว จะต้องเลี้ยงให้ ขาดสารอาหาร จึงได้ไม้แปลก แต่สวย หากได้หัวขึ้นมา และมีลักษณะเหมือนก้อนดิน ขนาดใหญ่ ยิ่งทำราคาได้มาก
แต่หากหัวหรือโขด มีขนาดเล็ก ราคาก็อาจลดทอนลงมา แต่ก็ขึ้นอยู่กับ อายุ และ ความสมบูรณ์ ของหัวด้วย
ไม้โขดสร้างรายได้
ในปัจจุบันนี้ ราคาค่าหัวสำหรับ ไม้โขด หรือในกลุ่มของ บัวโขด นั้น สามารถทำตลาดได้อย่างต่อเนื่องและ หาซื้อได้ง่ายขึ้นมากกว่าในอดีต อาจเพราะมีคนสรรหาออกมาจาก ป่า ในจำนวนมากขึ้น พอ ๆ กับ บอนกระดาดด่าง และเพราะเป็นพืชกระแส จึงทำให้ ความต้องการของพันธุ์ไม้ชนิดนี้ ยังไม่เสื่อมสลายลงได้ง่าย ๆ เนื่องจาก นักสะสม ก็ย่อม ต้องการ และเนื่องจาก ในท้องตลาดนั้น มีแต่ราคาหัวเล็ก เฉลี่ยจะอยู่ที่ 20-300 บาทต่อหัว
แต่สำหรับ บัวโขด ที่สามารถทำราคาได้สูงหลักพันบาท ก็ยังพอมี
แน่นอนว่าราคา ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของหัว รวมไปถึง อายุ และ ความสมบูรณ์ของโขดด้วย เฉลี่ยแล้วอาจแตะถึงหลักหมื่นได้ง่าย ๆ หากเจอหัวใหญ่ และสวยมากพอ
แนะนำการปลูก ไม้โขด ให้ได้ผล
การปลูกไม้โขด โดยทั่วไป ต้องใช้วัสดุปลูก ที่สามารถระบายน้ำได้ดีมาก เนื่องจากเป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำมากนัก และแสงน้อยก็อยู่ได้ ดังนั้น การให้น้ำมากเกินไปอาจทำให้หัวเน่าตายได้ง่าย แต่หากอยู่กลางแจ้ง อาจใช้วัสดุเก็บความชื้นได้เล็กน้อย แต่แนะนำให้ปลูกไว้ในร่มจะดีที่สุด เพราะทรงจะควบคุมได้ง่ายกว่าปลูกกลางแจ้ง
สำหรับการให้น้ำ ข้อแนะนำคือ ควรหลีกเลี่ยงการให้น้ำโดยตรง เพราะจะทำให้หัวเกิดความชื้นและเน่าได้ ไม้โขดจะแตกยอดหาแสง ยิ่งมีแสงน้อย ยอดจะยาว ดังนั้น การกำหนดรูปทรงที่ง่ายที่สุดคือ ควบคุมปริมาณแสง และน้ำ ให้ไม่มากเกินไป ส่วนขนาดของหัว จะใหญ่หรือเล็ก ขึ้นอยู่กับ อายุ เป็นหลัก
หากใครที่กำลังมองหา รายได้พิเศษ ลองทำตลาดด้วยการค้าขายบัวบกโขด ก็อาจทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นไม่มาก ก็น้อย
อ้างอิง : เรื่องน่ารู้ของบัวบกโขด
เรียบเรียง : www.swenth.com
