พิมประภา ตั้งประภากร หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกว่า พิม เธอเป็นใครมาจากไหน มาทำความรู้จักกับเธอวันนี้
สำหรับนักแสดงสาวสุดสวย ที่มากความสามารถ และโกยรายได้งาม ๆ กับธุรกิจของเธอ “พิมประภา ตั้งประภากร” แต่ก่อนนั้น เธอเริ่มเข้าวงการบันเทิงครั้งแรก เมื่ออายุ 7 ปี โดยการแสดงละครในเรื่อง ลูกไม้ไกลต้น ต่อมาก็มีผลงานการแสดงละครอีกหลายเรื่อง เช่น แรงเงา, หนึ่งในทรวง หรือขมิ้นกับปูน และนอกจากงานแสดงแล้ว พิมประภา ยังเคยเป็นพิธีกรในรายการ ฮิคารุ เซียนโกะ อีกด้วย
ส่องธุรกิจรายได้กำไรงามของ พิมประภา
พิมประภา นั้นเคยผ่านการคัดเลือกให้เป็น ศิลปินในสังกัดค่ากามิกาเซ่ในเครือ RS เมื่อปี 2550 และมีผลงานเพลงในนามวงชิลลี่ไวท์ช็อค และยังได้มีโอกาสร่วม Project พิเศษหลายครั้งกับหลายวง เช่น เซเวนเดส์ และสวีต ดี จวบจนกระทั่งในปี 2554 เธอได้ถอนตัวจาก ค่ายกามิกาเซ่ เพื่อทุ่มเทเวลาให้กับการเรียนทั้งหมด
และในช่วงปี 2556 ก็ได้กลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง กับการแสดงเรื่อง วิมานมะพร้าว ที่ออกฉายในปี 2559 สำหรับครั้งนี้ ได้รับบทนางเอกในละครหลังข่าวครั้งแรก แสดงคู่กับ มิกค์ ทองระย้า ถือเป็นละครที่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมทั้งในไทย รวมถึงจีนด้วย
แต่ก่อนเธอจะมีวันเหล่านี้ได้ ก็ผ่านอุปสรรคมามากมาย มีหลายสื่อสอบถามว่า เธอผ่านวันเหล่านั้นมาได้อย่างไรกัน แต่คำตอบที่ได้รับกลับทำให้หลงรักเธอมากยิ่งขึ้นว่า
“พิมจำได้ว่าพี่เชียร์ ฑิฆัมพร ให้พิมพ์ยืมเงิน (น้ำตาคลอ) ค่ะ พิมเล่นละครกับเขา พี่เขาเป็นคนที่มีบุญคุณกับพิมคนหนึ่ง วันนั้นเป็นช่วงที่เราเล่นละครด้วยกัน แล้วมันเป็นช่วงที่หนักสำหรับพิม ซึ่งพี่เขาเป็นพี่ที่รับรู้ด้วยความที่เราอยู่กองถ่ายด้วยกัน แต่มันก็เป็นเงินเล็กน้อยนะคะไม่ได้เป็นหลักที่เยอะ แต่มันก็ทำให้เราได้เรียนจบ ให้เรามีใช้ ซึ่งพอพิมมีเงินพิมก็คืนทันที”
“ทุกวันนี้อาจจะไม่ค่อยได้เจอ แต่พี่เขาก็รู้ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนที่มีบุญคุณ เขาเป็นคนที่มีบุญคุณกับพิมคนหนึ่ง พิมรักพี่เขามากเลย แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องไปเล่าให้ใครฟังถูกไหมคะ”
“จริงๆ มันเป็นครั้งเดียวแหละที่พี่เขาช่วย และตัวพิมเองก็ไม่เคยยืมเงินใครเลย แล้วเราก็ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะต้องไปยืมใคร แต่เราก็มาอยู่ในจุดที่แบบเราได้รับความช่วยเหลือ ในช่วงนั้นมันทำให้พิมรู้ว่าชีวิตนี้ฉันจะไม่มีทางเป็นหนี้เด็ดขาด”
เบื้องหลังชีวิต เกือบจะไม่ได้เรียนหนังสือ
เพราะครั้งหนึ่ง ครอบครัวพิมประภา ตั้งประภากร มีปัญหาทางด้านการเงิน จนไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมของมหาวิทยาลัย แต่ได้นักแสดงรุ่นพี่ เชียร์-ทิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ ยื่นมือเข้าช่วยให้ยืมเงินเพื่อจ่ายค่าเทอม
“พิมมีเป้าหมายอย่างหนึ่งเลยว่าชีวิตนี้พิมจะไม่เป็นหนี้อีก แล้วถ้าถามว่าทำไมพิมพ์ถึงทำงานขนาดนี้หรือพยายามขนาดนี้ คือ…มันมีเหตุการณ์หนึ่งอันนี้จะเป็นเรื่องเงินค่ะ มันเป็นช่วงที่ต้องจ่ายค่าเทอม และมันก็จะมีบิลที่จะต้องไปจ่าย พิมจำภาพตัวเองได้ว่าพิมยืนร้องไห้เพราะพิมไม่มีเงินไปจ่ายค่าเทอม พิมจำได้ว่าตัวเองเหลือเงินในบัญชีแบบหลักร้อย”
“ช่วงนั้นต้องเล่าว่ามันเป็นช่วงที่เราจะต้องใช้หนี้ ซึ่งทั้งหมดที่พิมมีก็คือต้องไปใช้ตรงนั้น เพื่อช่วยครอบครัว ช่วยทั้งหมดที่เรามี จำได้เลยแบบทำยังไงดีไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมเราอยู่จุดนี้ได้ยังไง นี่คือการศึกษา และเรารู้มาตลอดว่าเราไม่เคยขาด เพราะพ่อแม่เราทำงานหนักมากเพื่อให้เราได้การศึกษาที่ดี”
สู่การเป็นผู้บริหารถึง 3 บริษัท
นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้ว พิมประภา ตั้งประภากร ยังมีธุรกิจส่วนตัวอีกด้วย โดยจากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า มีรายชื่อ พิมประภา ตั้งประภาพร ปรากฎว่าเป็นกรรมการบริษัทถึง 3 แห่ง
- บริษัท พิมนิยม ออฟฟิเชียล จำกัด
- บริษัท พีเอสอาร์ การ์เม้นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
- บริษัท วิตามินแสนล้าน จำกัด
บริษัท พิมนิยม ออฟฟิเชียล จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2564 โดยมีรายชื่อ น.ส.พิมประภา ตั้งประภาพร เป็นกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจการผลิตโฆษณา ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยมีผลประกอบการย้อนหลัง
- ปี 2564 รายได้ 3,200,289.37 บาท กำไร 2,092,809.79 บาท
บริษัท พีเอสอาร์ การ์เม้นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2561 โดยมีรายชื่อ น.ส.พิมประภา ตั้งประภาพร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจการขายส่งเสื้อผ้า ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท โดยมีผลประกอบการย้อนหลังคือ
- ปี 2561 รายได้ 0.23 บาท ขาดทุน 15,359.77 บาท
- ปี 2562 รายได้ 107,899.84 บาท กำไร 29,795.84 บาท
- ปี 2563 รายได้ 1,733,027.97 บาท กำไร 278,633.21 บาท
- ปี 2564 รายได้ 1,441,627.69 บาท กำไร 42,229.04 บาท
บริษัท วิตามินแสนล้าน จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2564 โดยมีรายชื่อ น.ส.พิมประภา ตั้งประภาพร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจการขายส่งเครื่องสำอาง ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1.6 ล้านบาท โดยมีผลประกอบการย้อนหลังดังนี้
- ปี 2564 รายได้ 339,305.35 บาท ขาดทุน 289,568.83 บาท
ที่มา : www.sanook.com
เรียบเรียง : www.swenth.com