2566 ปีแห่งโอกาส ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

2566 ปีแห่งโอกาส ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ทั่วโลกต่างคึกคัก หลังจีน เพิ่งประกาศเปิดประเทศ โดยเฉพาะไทยแลนด์ แม้ยังไม่ชัวร์ว่า โอกาสของนักลงทุนตัวจริง ที่จะเข้ามา มีมากน้อยแค่ไหน

เตรียมรับการกลับมาเปิดประเทศ ของพี่จีน หลังหยุดยาวจาก สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในรอบ 3 ปี โดยเริ่มในวันที่ 8 มกราคม 2566 ที่กำลังจะมาถึงนี้ กระแสนี้กำลังกลายเป็นประเด็น ที่คนทั่วโลกจับตามอง รวมทั้งประเทศไทย ก็กำลังลุ้นอย่างใจจดจ่อ โดยเฉพาะ ธุรกิจการท่องเที่ยวและ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นั่นเพราะว่า พี่จีน ถือเป็นตลาดใหญ่ที่สำคัญ ที่ทุกชาติต่างรอคอย

ถ้าหากว่า จีนมาจริง ๆ ตลาดท่องเที่ยวน่าจะเห็นผลชัดเจน โดยคาดกันว่า ชาวจีนจะเข้ามาปี 2566 นี้ สูงถึง 5 ล้านคน ในขณะที่ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ หากไม่มีเหตุการณ์ใดมาขวางไว้ก่อน ก็น่าจะได้เห็นภาพการลงทุนในเรื่องอสังหาฯ นี้กันในครึ่งหลังของปี

หนึ่งในนั้นคือ ตลาดคอนโดมิเนียม ก็จะได้อานิสงส์มากสุด ทดแทนบ้านหรูที่โดนผลกระทบจาก ทุนจีนฟอกเงิน เนื่องจากกฎหมายเปิดทางให้ซื้อได้เพียง 49% ของพื้นที่ห้องชุด และจะเป็นแรงส่งให้ตลาดฟื้นตัวมาใกล้เคียงปี 2562 ก่อนมีโควิด

และไม่ใช่แค่จีนที่มือเติบมาช้อนคอนโดในไทย ยังมีอีกหลายประเทศที่ถือเป็นแรงซื้อไม่แพ้กัน อย่าง รัสเซีย อเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส และกลุ่มอาเซียน เพื่อนบ้านเราก็ไม่น้อยหน้า เมียนมา กัมพูชา ลาว เวียดนาม มาเลเซีย อินเดีย นี้ก็มีกำลังซื้อ แต่อาจไม่มากเท่าพี่ใหญ่ ที่กวาดไปถึง 50% ของตลาด นั่นจึงทำให้เห็นว่า ทุนจีน มักเป็นที่โหยหาแก่หลายประเทศ

สถิติ 5 ปี ต่างชาติเหมาคอนโดไปกว่าแสนล้านบาท

หากเจาะลึกทุนต่างชาติเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มากว้านซื้อในบ้านเรา ย้อนหลังไป 5 ปี (นับจากปี 2561-2565) ตามข้อมูลของ วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ระบุจากการรวบรวมข้อมูลมีการถือกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติตั้งแต่ปี 2561-2565 พบว่า มีคนต่างชาติรับโอนกรรมสิทธิ์ จำนวนกว่า 50,000 หน่วย มูลค่ากว่า 230,329 ล้านบาท แยกเป็นปี 2561 จำนวน 57,250 ล้านบาท ปี 2562 จำนวน 50,611 ล้านบาท ปี 2563 จำนวน 37,742 ล้านบาท ปี 2564 จำนวน 39,726 ล้านบาท และปี 2565 คาดอยู่ที่ 45,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 20% และในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มอีกประมาณ 20%

นอกจากนี้ ยังมีการประเมินกันว่า หน่วยเหลือขาย โครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีจำนวน 63,473 หน่วย มูลค่า 274,576 ล้านบาท เป็นอาคารชุดสร้างเสร็จยังขายไม่ได้ 18,323 หน่วย มูลค่า 80,165 ล้านบาท โดยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯมากถึง 70%

2566 ปีแห่งโอกาส ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ทำเลที่เหลือขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง จำนวน 9,270 หน่วย มูลค่า 37,556 ล้านบาท, นนทบุรี-ปากเกร็ด จำนวน 6,760 หน่วย มูลค่า 15,550 ล้านบาท, พระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ จำนวน 6,599 หน่วย มูลค่า 19,071 ล้านบาท, ธนบุรี-คลองสาน-บางกอกน้อย-บางกอกใหญ่-บางพลัด จำนวน 6,306 หน่วย มูลค่า 19,366 ล้านบาทและสุขุมวิท จำนวน 5,492 หน่วย มูลค่า 51,334 ล้านบาท

โอกาสในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปี 66 มีมากแค่ไหน

ฟังจากการวิเคราะห์ของ พสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า ถ้าจีนกลับมา หรือเรามีช่องทางให้เข้าไปขายโครงการได้ หรือเอาของไปให้จีนดูได้ จีนพร้อมลงทุนแน่นอน เพราะยังไงเมืองไทยเป็นประเทศที่จีนชอบมา และคอนโดวันนี้ในตลาดไม่ได้มีมาก

2566 ปีแห่งโอกาส ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

เพราะที่ผ่านมา ผู้ประกอบการไม่ลอนซ์โครงการใหม่มากนัก มีโอกาสตลาดจะขยายตัวได้ ถ้าจีนกลับมา ซึ่งปี 2566 ยังเป็นปีแห่งโอกาสของธุรกิจอสังหาฯ หลังจีนเปิดประเทศและเปิดโอกาสให้คนเข้าไปหาโอกาสจากตรงนี้ได้ โดยคอนโดที่ดีมานด์จะกลับมาแน่นอน


hosting สำหรับ wordpress โดยเฉพาะ
hosting คุณภาพสำหรับ wordpress โดยเฉพาะ

อีกทั้งธุรกิจโรงแรมและอสังหาฯ ยังไปได้ดี หลังพยาพยามปรับตัว โดยในฝั่งธุรกิจโรงแรมได้รับผลกระทบน้อยในช่วงโควิดระบาด เนื่องจากเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน แต่หลังจีนปิดประเทศ ได้ปรับตัวโดยเปิดตลาดใหม่ๆ เช่น ตะวันออกกลางและซาอุดีอาระเบีย ซึ่งช่วยได้พอสมควร โดยเฉพาะภูเก็ตดีขึ้นมาก

ในขณะเดียวกัน จะขยายยอดขายอสังหาฯในตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศจีนซึ่งบริษัทยังไม่เคยเจาะตลาดนี้มาก่อน คาดหวังว่าหากจีนเปิดประเทศแล้วจะสามารถสร้างยอดขายจากตลาดนี้ได้พอสมควร ทั้งนี้ก็ภาวนาให้ทุกอย่างทางประเทศจีน เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์โดยเร็ว

ที่มา : Matichon Online
เรียบเรียง : swenth.com

share on: