ความเหงา ภัยเงียบยุ...
 

อยากมีเนื้อหาและ Backlink คุณภาพดีไหม ลองดูก่อน ราคาไม่แพง เราบริการโฆษณาสินค้าบนช่องทาง Guest Post รับรองว่าเนื้อหาคุณภาพ มีลิ้งกลับให้แบบคุณภาพ dofollow ในราคาเริ่มต้นเพียง 500 บาทเท่านั้น สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติม กดเลย [รับโฆษณาสินค้าบน Guest Post] มีเงื่อนไขไม่มาก

ความเหงา ภัยเงียบยุคใหม่ที่คนไทยต้องเจอ

1 Posts
1 Users
0 Reactions
53 Views
Posts: 185
 swen
Admin
Topic starter
(@swen-post)
Member
Joined: 4 years ago

เปิดผลวิจัยระดับโลกชี้ ‘ความเหงา’ ภัยเงียบยุคใหม่ ชวนคนไทยช่วยกันดูแลใจ  

นีเวียเปิดเผยผลการศึกษา NIVEA CONNECT Compass 2025 ชี้ “ความเหงา” ภัยเงียบในโลกยุคใหม่ที่คืบคลานเข้าสู่ชีวิตของผู้คนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประเทศไทยที่มีระดับความรู้สึกเหงาสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมสานต่อโครงการ NIVEA CONNECT: Together We Fight Social Isolation มุ่งสร้างความตระหนักรู้และร่วมต่อสู้กับปัญหาความเหงารวมถึงความรู้สึกโดดเดี่ยวในสังคม สะท้อนจุดยืนของนีเวียที่เป็นมากกว่าแบรนด์สกินแคร์ แต่ความหมายพลังแห่งการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้คน ผ่านการสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมาย เข้าใจซึ่งกันแล้วก็กัน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนสังคมที่ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งอย่างแท้จริง

นีเวีย ได้เผยผลการวิจัย NIVEA CONNECT COMPASS เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการศึกษาระดับโลกว่าด้วยความเหงาและการแยกตัวออกจากสังคม งานวิจัยนี้จัดทำขึ้นใน 13 ประเทศ ครอบคลุม 5 ทวีป พบว่าความเหงาเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้าน ประกอบกับกำลังกลายเป็นวิกฤติที่สร้างผลกระทบลึกซึ้งทั้งต่อสุขภาพจิตร่วมกับสุขภาพกายมากกว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม (56%) ยอมรับว่ามีความรู้สึกเหงาอย่างน้อยเป็นบางครั้ง 57% ระบุว่ามีช่วงเวลาที่รู้สึกว่าตนเองอยู่ลำพัง แล้วก็ 54% เผชิญกับความรู้สึกว่าแยกจากผู้อื่น ขณะที่เกือบครึ่งหนึ่ง (47%) ระบุว่ารู้สึกถูกทอดทิ้งอย่างน้อยเป็นบางครั้ง

ข้อมูลจากการสำรวจเผยว่า 1 ใน 5 คนรู้สึกเหงาบ่อยครั้ง ประกอบกับกว่าครึ่งยอมรับว่ารู้สึกเหงาอย่างน้อยบางครั้ง กว่าหนึ่งในสามของผู้ที่รู้สึกเหงาและก็โดดเดี่ยวเคยเผชิญภาวะเครียดรวมไปถึงความรู้สึกหมดหนทาง ขณะที่เกือบ 60% รายงานว่ามีอาการเศร้า รวมถึงภาวะซึมเศร้าหมายรวมไปถึงความวิตกกังวล ผลวิจัยยังยืนยันว่า 63% ของผู้ที่มีความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับผู้อื่น รู้สึกมีความสุขมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากเลือกที่จะปกปิดปัญหาเพราะรู้สึกอับอาย โดยมากกว่าครึ่ง (56%) ของผู้ที่รู้สึกเหงายอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ ซึ่งยิ่งทำให้ความรู้สึกโดดเดี่ยวรุนแรงขึ้นไปอีก

สำหรับประเทศไทย ข้อมูลชี้ชัดว่า 69% ของคนไทยเคยรู้สึกเหงา ไม่ว่าจะเป็นบางครั้งหรือบ่อยครั้งซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 56% อย่างเห็นได้ชัด สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าความเหงาได้กลายเป็นหนึ่งในความท้าทายสำคัญของสังคมไทย แม้ประเทศไทยจะเป็นที่รู้จักในฐานะสังคมอบอุ่น แต่การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคมดิจิทัล รวมถึงความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจประกอบกับสังคม ได้ทำให้ผู้คนจำนวนมากรู้สึกขาดการเชื่อมโยงที่มีความหมายกับผู้คนรอบตัว

รายงานยังชี้ให้เห็นว่ากลุ่มวัยหนุ่มสาวอายุระหว่าง 16–24 ปี เป็นกลุ่มที่เผชิญความโดดเดี่ยวมากที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงวัยอื่น โดยต้นสายปลายเหตุสำคัญที่ส่งผลหมายความความกดดันทางเศรษฐกิจ การแข่งขันด้านการศึกษาแล้วก็การทำงาน ตลอดจนการใช้โซเชียลมีเดียในระดับสูงซึ่งอาจทำให้รู้สึกเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่นร่วมกับขาดพื้นที่ปลอดภัยในการสื่อสารอย่างจริงใจ นอกจากนี้ คนจำนวนมากยังยอมรับว่ารู้สึกอายที่จะขอความช่วยเหลือ ส่งผลให้ปัญหาความโดดเดี่ยวมักถูกซ่อนอยู่ภายในแล้วก็ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที

นีเวียตระหนักถึงปัญหาความเหงาที่กำลังก่อตัวขึ้นทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ จึงได้เดินหน้าพันธกิจต่อสู้กับความเหงาในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ภายใต้โครงการ NIVEA CONNECT ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างการตระหนักรู้ร่วมด้วยสนับสนุนให้ผู้คนก้าวข้ามความรู้สึกเหงาประกอบกับโดดเดี่ยว ด้วยการสร้างสัมพันธ์ที่มีความหมายกับคนรอบข้าง ด้วยการใส่ใจกันบวกกับกัน เพราะเพียงแค่การสังเกต การทักถาม หรือการแสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจ ก็สามารถคลายความรู้สึกเหงาของหลายคนได้

เภสัชกรหญิงวราพร ลิขิตจรรยากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า “ผลการวิจัยสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าความเหงาประกอบไปด้วยความรู้สึกถูกแยกออกจากสังคมกำลังเป็นความท้าทายสำคัญของสังคมไทยในปัจจุบัน นีเวียมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหานี้ เราจึงเดินหน้าโครงการ NIVEA CONNECT ในประเทศไทยด้วยการให้การสนับสนุนกลุ่มเด็กกำพร้า เพราะเด็กกลุ่มนี้เท่ากับผู้ที่ขาด “ครอบครัว” ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่สุดในการสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับผู้อื่น โดยได้ร่วมมือกับ มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งดูแลเด็กกำพร้าประกอบกับเยาวชนขาดโอกาสกว่า 600 คน ให้ได้รับการเลี้ยงดูระยะยาวและก็การศึกษาที่เหมาะสม ตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงมหาวิทยาลัย เพื่อเตรียมความพร้อมในการใช้ชีวิตอย่างอิสระหมายรวมไปถึงพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคง โดยกิจกรรมหลักของโครงการจะสนับสนุนให้เด็กประกอบไปด้วยเยาวชนเรียนรู้ที่จะเข้าใจความรู้สึกของตนเองร่วมกับสื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านกิจกรรมที่ส่งเสริมสายสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เราจัดกิจกรรมเป็นเวลา 2 วัน ให้กับเยาวชนจากหมู่บ้านเด็กโสสะทั้ง 5 แห่ง ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาได้เข้าร่วมกว่า 200 คน โดยกิจกรรมมุ่งเน้นให้เด็กๆ เข้าใจความรู้สึกโดดเดี่ยวที่เกิดขึ้น รู้ว่าจะรับมือกับมันอย่างไร บวกกับต้องขอความช่วยเหลือจากใคร ที่สำคัญเรายังมีกิจกรรมสร้างทักษะการสื่อสารเชื่อมโยงกับผู้อื่น การทำงานเป็นทีม เพื่อให้เด็กๆ มีทักษะที่สำคัญต่อการก้าวสู่โลกการทำงานในอนาคตอีกด้วย ความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของจะเป็นส่วนหนึ่งในการลดความโดดเดี่ยวในสังคม รวมทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมาย เพื่ออนาคตที่ทุกคนสามารถเติบโตอย่างมั่นใจและก็มีคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะนีเวียไม่ได้ดูแลเพียงแค่ผิว แต่ยังใส่ใจคุณภาพชีวิตและก็ความเป็นอยู่ของผู้คนในทุกมิติอีกด้วย”

เพราะในวันนี้ “ความเหงา” กำลังกลายเป็นภัยเงียบที่คุกคามชีวิตของเราโดยไม่รู้ตัว นีเวียจึงอยากชวนคนไทยลองหันกลับมาสำรวจตนเองประกอบไปด้วยคนรอบข้าง ว่า “มีใครใกล้ตัวคุณที่กำลังรู้สึกโดดเดี่ยวอยู่หรือไม่” เพียงแค่เราใส่ใจ สังเกต รวมถึงรับฟัง ก็สามารถสร้างพื้นที่เล็ก ๆที่เชื่อมโยงถึงกัน และ ความเหงาเบาลงได้ แค่ยอมรับประกอบกับเปิดใจสร้างสัมพันธ์ที่มีความหมายกับผู้อื่น นีเวียพร้อมส่งกำลังใจ อยู่เคียงข้างคุณ ก้าวผ่านทุกความเดียวดาย


เนื้อหาเรียบเรียงใหม่จากต้นฉบับข่าวทาง มติชนออนไลน์ อย่าพลาดเรื่องราวใหม่ ๆ ของที่นี่ ที่เดียว สรุปข่าวประจำวัน สรุปข่าวเด่น เรื่องราวน่าสนใจในแต่ละวัน