อยากมีเนื้อหาและ Backlink คุณภาพดีไหม ลองดูก่อน ราคาไม่แพง เราบริการโฆษณาสินค้าบนช่องทาง Guest Post รับรองว่าเนื้อหาคุณภาพ มีลิ้งกลับให้แบบคุณภาพ dofollow ในราคาเริ่มต้นเพียง 500 บาทเท่านั้น สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติม กดเลย [รับโฆษณาสินค้าบน Guest Post] มีเงื่อนไขไม่มาก

โลกจับตา ทรัมป์-สีจิ้นผิง จะสงบศึกทางการค้า หรือเปิดหน้าชน

1 Posts
1 Users
0 Reactions
10 Views
Posts: 185
 swen
Admin
Topic starter
(@swen-post)
Member
Joined: 4 years ago

โลกจับตา! ทรัมป์-สี หารือวันนี้ สงบศึกการค้า หรือเปิดหน้าชนต่อ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะพบหารือกันในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ ที่เกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำสองชาติมหาอำนาจจะพบกันหลังจากทรัมป์ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่ 2 ในต้นปีนี้ ท่ามกลางความตึงเครียดในสงครามการค้าที่หลายฝ่ายหวังว่า จะได้รับการแก้ไขรวมทั้งยุติลงในการหารือวันนี้

ทีมเจรจาฝ่ายสหรัฐส่งสัญญาณว่าพวกเขาต้องการกลับไปสู่การสงบศึกทางการค้าที่เต็มไปด้วยความเปราะบาง แต่ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบไปด้วยเหตุฉุดรั้งทางเศรษฐกิจระยะยาวก็มีแนวโน้มจะดำรงอยู่ต่อไประหว่างสองมหาอำนาจคู่แข่งทางภูมิรัฐศาสตร์ของโลก

ทรัมป์ได้แสดงความหวังหลายครั้งว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ เมื่อเขาพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระหว่างการเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปค แต่สถานที่พบกันครั้งนี้กลับไม่ใช่เมืองคยองจู สถานที่จัดประชุมผู้นำเอเปคที่เกาหลีใต้ทุ่มเททรัพยากรเวอร์วังอลังการเพื่อให้โลกได้เห็นอดีตเมืองหลวงยาวนานกว่า 992 ปีของอาณาจักรโชซอน แต่เป็นเมืองปูซาน ที่เครื่องบินของเหล่าผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคจะนำเครื่องมาลงจอด

สื่อบางสำนักคาดการณ์ว่า การพบปะหยุดโลกของสองผู้นำชาติเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ประกอบกับ 2 ของโลกในครั้งนี้ อาจจะจัดขึ้นที่สนามบินนานาชาติกิมแฮในเมืองปูซาน ไม่นานหลังจากที่ประธานาธิบดีสีเดินทางถึงเกาหลีใตเพื่อร่วมการประชุมเอเปค และก็ก่อนที่ทรัมป์จะออกเดินทางจากเกาหลีใต้ โดยไม่ได้เข้าร่วมภารกิจการประชุมเอเปคใดๆ อย่างเป็นทางการ เว้นแต่การเข้าร่วมดินเนอร์กับผู้นำเอเปคเพียง 8 เขตเศรษฐกิจเท่านั้น

อย่างไรก็ดี ด้วยการที่ทั้งสองประเทศพร้อมเล่นงานกันอย่างดุเดือดมากขึ้นในการแข่งขันทางเศรษฐกิจรวมไปถึงภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนมองว่าเป็นดั่งสงครามเย็นยุคใหม่ คำถามสำคัญที่ยังคงอยู่จะเป็นดังเช่น ความสงบชั่วคราวทางการค้านี้จะคงอยู่ยืนยาวได้เพียงใด

สงครามการค้าปะทุขึ้นอีกครั้งในเดือนนี้ หลังจากที่ปักกิ่งได้ขยายข้อจำกัดการส่งออกแร่หายาก ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งเป็นภาคส่วนที่จีนครองตลาดโลกเกือบทั้งหมดอยู่
ทรัมป์ได้ตอบโต้โดยขู่ว่าจะเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้าจีนเพิ่มอีก 100% พร้อมกับมาตรการอื่นๆ เช่น การจำกัดการส่งออกสินค้าที่ผลิตโดยใช้ซอฟต์แวร์ของสหรัฐไปยังจีน ซึ่งอาจส่งผลสะเทือนต่อเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง

หลังจากการเจรจาอย่างเร่งด่วนของเจ้าหน้าที่การค้าระดับสูงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า เขาคาดว่าปักกิ่งจะยอมเลื่อนการบังคับใช้ข้อจำกัดเกี่ยวกับแร่หายากออกไปอีกหนึ่งปี ประกอบกับจะกลับมาซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐ ซึ่งเป็นผลผลิตที่มีความสำคัญต่อเกษตรกรชาวอเมริกันอีกครั้ง โดยเป็นส่วนหนึ่งของกรอบข้อตกลงสำคัญ ที่คาดว่าผู้นำทั้งสองฝ่ายว่าจะให้ความเห็นชอบ
ก่อนการประชุมสุดยอดเอเปค รอยเตอร์ได้เผยมีรายงานพิเศษในวันที่ 29 ตุลาคมว่า จีนได้ซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน

ไรอัน แฮสส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนจากสถาบันบรูคกิงส์ กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายยังคงไม่เต็มใจที่จะสละอำนาจควบคุมต่อสินค้าหรือเทคโนโลยีที่อีกฝ่ายพึ่งพาอยู่ จุดยืนเหล่านั้นจะยังคงอยู่ เหมือนปืนที่บรรจุกระสุนวางอยู่บนโต๊ะ ในขณะที่ผู้นำทั้งสองกำลังหาทางลดการพึ่งพาวัตถุดิมที่มีความสำคัญของแต่ละประเทศ
ทำเนียบขาวส่งสัญญาณว่า หวังให้การประชุมสุดยอดครั้งนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นของการพบกันอีกหลายครั้งระหว่างทรัมป์รวมไปถึงสีในปีหน้า รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการเยือนกันระหว่างผู้นำทั้งสอง ซึ่งบ่งชี้ว่ากระบวนการเจรจาที่ยืดเยื้อ แต่ทรัมป์ต้องการเห็นความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมโดยเร็ว เนื่องจากการเจรจาครั้งนี้กำลังถูกจับตาอย่างใกล้ชิดจากภาคธุรกิจทั่วโลก

ทรัมป์กล่าวเมื่อวันพุธว่า เขาคาดว่าจะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนลง หากจีนให้คำมั่นว่าจะควบคุมการส่งออกสารตั้งต้นที่ใช้ผลิตยาเฟนทานิล ซึ่งเป็นยาแก้ปวดสังเคราะห์รุนแรงบวกกับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดในสหรัฐ

ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า เขาอาจลงนามในข้อตกลงสุดท้ายกับสีเกี่ยวกับแอป TikTok แอปพลิเคชันยอดนิยมที่เผชิญกับคำสั่งแบนในสหรัฐ เว้นแต่บริษัทแม่ชาวจีนจะขายกิจการในสหรัฐ

นายกัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า ปักกิ่งยินดีที่จะทำงานร่วมกันกับสหรัฐเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เชิงบวก

ข้อตกลงก่อนหน้านี้ ภาษีตอบโต้กันระหว่างสองประเทศลดลงอย่างมากเหลือประมาณ 55% สำหรับการนำเข้าไปยังสหรัฐ หมายรวมไปถึง 10% สำหรับสินค้าสหรัฐที่นำเข้าไปยังจีน รวมทั้งได้รื้อฟื้นการส่งออกแม่เหล็กแร่หายากจากจีน กลับสู่ตลาดโลก โดยข้อตกลงดังกล่าวกำลังจะหมดอายุลงในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้

สก็อตต์ เคนเนดี ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจจีนจากศูนย์ยุทธศาสตร์แล้วก็การศึกษาระหว่างประเทศ (CSIS) ในกรุงวอชิงตัน คาดว่า ทั้งสองฝ่ายคงจะเลือกเตะถ่วงเวลาไปก่อนในตอนนี้ รวมถึงไม่ว่าจะได้ข้อตกลงในรูปแบบใด มันก็คงไม่ได้มีเนื้อเรื่องสาระสำคัญหรือเป็นข้อตกลงที่ยั่งยืนนัก

เคนเนดีกล่าวว่า การเจรจาครั้งนี้จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่สหรัฐกังวลมานานอย่างการเข้าถึงตลาดจีน และการผลิตเกินความต้องการของอุตสาหกรรมจีน ขณะที่สำหรับฝ่ายจีน แค่หลีกเลี่ยงประเด็นเหล่านั้นได้ ก็ถือเป็นชัยชนะแล้ว

การพบปะของทรัมป์และก็สีครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงท้ายของการเดินทางเยือนเอเชียเป็นเวลา 5 วันของทรัมป์ ซึ่งระหว่างนั้นเขาได้ลงนามในข้อตกลงกับญี่ปุ่นบวกกับชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายประเทศ เกี่ยวกับความร่วมมือด้านแร่หายาก


เนื้อหาเรียบเรียงใหม่จากต้นฉบับข่าวทาง มติชนออนไลน์ อย่าพลาดเรื่องราวต่าง ๆ จากเรา ที่เดียว สรุปข่าวประจำวัน สรุปข่าวเด่น เรื่องราวน่าสนใจในแต่ละวัน